บ้านอิฐ คือบ้านที่มีองค์ประกอบที่สำคัญอย่างครบถ้วน ทั้งความสวยงามและโครงสร้างของบ้านที่แข็งแรง ในบทความนี้ เราจะสำรวจความมหัศจรรย์ของบ้านชนิดนี้กันครับ ประวัติความเป็นมา กระบวนการก่อสร้าง ความอิสระในการออกแบบ การพิจารณาต้นทุน ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม การบำรุงรักษา และอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้หลงใหลในสถาปัตยกรรม หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง ก็สามารถมาอ่านบทความนี้เพื่อที่จะเข้าใจในโลกของบ้านที่ทำจากอิฐ ( อิฐแบบทั้งหลังเลย ) กันครับ

บ้านอิฐ คืออะไร โดดเด่นกว่าบ้านสไตล์อื่นอย่างไรบ้าง

ประวัติศาสตร์ของ บ้านอิฐ

บ้านที่ทำจากอิฐมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี การใช้อิฐในการก่อสร้างบ้านนั้นสามารถย้อนไปถึงอารยธรรมโบราณถึงยุคเมโสโปเตเมียและลุ่มแม่น้ำสินธุกันเลยทีเดียวครับ อารยธรรมยุคแรกเหล่านี้นิยมใช้อิฐในการสร้างบ้านอย่างมาก เพราะว่ามีความถึกทนและสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทำให้อิฐเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของมรดกทางสถาปัตยกรรมต่าง ๆ และเมื่อเวลาผ่านไป ศิลปะการก่ออิฐและเทคนิคการก่อสร้างได้พัฒนาขึ้น นำไปสู่การพัฒนาสิ่งก่อสร้างที่มหัศจรรย์มากขึ้นครับ เช่น กำแพงเมืองจีนและโคลอสเซียมโรมัน เป็นต้น

 

บ้านที่ทำจากอิฐนั้นมีจุดเด่นกว่าบ้านชนิดอื่นอย่างไรบ้าง

 

ความทนทานต่อทุกสภาพอากาศและความคงทนถาวร

คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของบ้านแนวนี้คือความทนทานเป็นพิเศษ อิฐมีความสามารถในการทนไฟ แมลงศัตรูพืช และไม่เน่าหรือขึ้นราได้เหมือนไม้ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ สำหรับการก่อสร้างบ้าน อิฐไม่ซีดจาง บิดงอ หรือเสื่อมสภาพง่าย ซึ่งแตกต่างจากวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ จึงสามารถมั่นใจได้ว่าบ้านของคุณจะมีความถึกทนเป็นอย่างมากเมื่อกาลเวลาผ่านไปครับ

การช่วยในการประหยัดพลังงาน

บ้านที่ทำจากอิฐเป็นฉนวนที่ดีเยี่ยม ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร และลดการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติในการดูดซับความร้อนของอิฐนั้น ช่วยให้อิฐสามารถดูดซับและกักเก็บความร้อน และจะปล่อยออกมาอย่างช้า ๆ เมื่ออุณหภูมิลดลง คุณสมบัติของฉนวนธรรมชาตินี้ช่วยให้บ้านของคุณเย็นสบายในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว นำไปสู่การประหยัดพลังงานและเพิ่มความสะดวกสบายขณะอยู่บ้านมากขึ้นครับ

ความสามารถในการกันไฟ

อิฐมีคุณสมบัติทนไฟได้ดีเยี่ยม ทำให้บ้านชนิดนี้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า อิฐไม่ติดไฟ ไม่ละลาย หรือปล่อยควันพิษเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูง ความสามารถในการทนไฟโดยธรรมชาตินี้สามารถปกป้องบ้านของคุณจากเหตุเพลิงไหม้ได้เป็นอย่างดีครับ

มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำ

บ้านอิฐต้องการการบำรุงรักษาน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับการก่อสร้างประเภทอื่น อิฐไม่จำเป็นต้องทาสีหรือเคลือบแต่อย่างใดและไม่จำเป็นต้องทาสีใหม่เป็นประจำ นอกจากนี้ อิฐยังทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศและไม่ผุกร่อนด้วย ช่วยลดความจำเป็นในการซ่อมแซมบ่อยครั้ง ด้วยการดูแลที่เหมาะสม บ้านของคุณจะคงความสวยงามและความสมบูรณ์ของโครงสร้างไปอีกนานหลายทศวรรษเลยครับ

มีความสามารถในการเป็นฉนวนกันเสียง

บ้านสไตล์นี้มีความสามารถในการเป็นฉนวนกันเสียงที่ดีเยี่ยม ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยที่เงียบสงบ ส่วนประกอบที่หนาแน่นของอิฐจะดูดซับเสียงได้เป็นอย่างดี ช่วยลดมลพิษทางเสียงจากภายนอก ซึ่งคุณลักษณะนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองหรือใกล้กับถนนที่พลุกพล่าน ช่วยให้มั่นใจได้ถึงบรรยากาศที่เงียบสงบภายในบ้านของคุณ

แล้วถ้าอยากสร้างบ้านอิฐ ต้องทำอย่างไรบ้าง

แล้วถ้าอยากสร้างบ้านอิฐ ต้องทำอย่างไรบ้าง

เตรียมพื้นที่ในการสร้างบ้าน

ก่อนเริ่มก่อสร้างต้องเตรียมสถานที่ ซึ่งรวมถึงการถางดิน ปรับหน้าดิน และดำเนินการทดสอบดินเพื่อให้แน่ใจว่าฐานรากมั่นคง การเตรียมสถานที่ยังเกี่ยวข้องกับการขอใบอนุญาตและการอนุมัติที่จำเป็นจากหน่วยงานท้องถิ่น หรือจะลองพิจารณาการเลือกที่จะซื้อบ้านดูก็ได้ครับ และทำเลในการสร้างบ้านเองก็สำคัญเช่นกัน ลองพิจารณาดูทีละอย่างครับ ว่าราคาที่ต้องจ่ายนั้น คุ้มค่ากับความต้องการของคุณหรือไม่

 

สร้างโครงหลักของบ้าน

โครงหลักของบ้านเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของบ้านทุกชนิด บ้านอิฐก็เช่นกัน โดยโครงหลักของบ้านนี้จะให้ความมั่นคงและช่วยรับประกันความสมบูรณ์ของโครงสร้างของอาคารทั้งหมด ฐานรากสำหรับบ้านมักทำจากคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งเป็นฐานที่มั่นคงสำหรับผนังด้วยครับ

 

ก่อสร้างกำแพงบ้าน

กำแพงอิฐสร้างขึ้นโดยใช้อิฐ ปูน และเหล็กเสริม ช่างที่มีฝีมือดีจะวางอิฐในรูปแบบเฉพาะเพื่อให้มั่นใจได้ถึงความแข็งแรงและความมั่นคงของบ้าน และใช้ปูนเพื่อประสานอิฐเข้าด้วยกันและเพื่อสร้างโครงสร้างที่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงการเสริมแรงเช่นการใช้เหล็กเส้นที่ฝังอยู่ในผนังเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับบ้านด้วยครับ

 

ก่อสร้างหลังคา

เมื่อก่อผนังเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการก่อสร้างหลังคา วัสดุที่ใช้สร้างหลังคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและรูปแบบสถาปัตยกรรมของบ้าน ตัวเลือกหลังคาทั่วไปสำหรับบ้านที่ทำจากอิฐ ได้แก่ กระเบื้อง หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ หรือเมทัลชีท การติดตั้งฉนวนและการเพิ่มความสามมารถในการกันซึมให้กับบ้านที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าหลังคาได้รับการปกป้องอย่างดีและปราศจากการรั่วซึมของน้ำได้ครับ

 

เก็บงานภายนอกบ้านให้ดูสวยงาม

หลังจากการก่อสร้างหลักเสร็จสมบูรณ์ ต้องทำการเก็บงานเพิ่มเติมให้บ้านดูสวยงามยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการตกแต่งภายในและภายนอกให้เรียบร้อย เช่น การฉาบปูน การทาสี การปูพื้น และการจัดสวนภายในบ้าน การเลือกวัสดุตกแต่งมีผลอย่างมากต่อความสวยงามและบรรยากาศโดยรวมของบ้านครับ

 

ประเภทของอิฐที่ใช้ในการสร้างบ้าน

อิฐดินเผา หรือ อิฐมอญ ( Clay Bricks )

อิฐดินเผาเป็นวัสดุที่ดั้งเดิมสำหรับการสร้างบ้านอิฐครับ อิฐเหล่านี้จะทำจากดินเหนียวที่หล่อและเผาในเตาเผา อิฐมอญมีความทนทาน แข็งแรง และเป็นฉนวนกันความร้อนตามธรรมชาติได้ดีเยี่ยม มีให้เลือกในสีและพื้นผิวที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถออกแบบได้หลากหลายมาก ๆ ครับ

 

อิฐบล็อก หรือ คอนกรีตบล็อก ( Concrete Bricks )

อิฐคอนกรีตนั้นทำจากส่วนผสมของซีเมนต์ ทราย และเศษหินก้อนเล็ก ๆ โดยวัสดุชนิดนี้ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการก่อสร้างบ้านสมัยใหม่เนื่องจากความที่มีราคาถูกและความหากหลายในการนำไปใช้งาน อิฐคอนกรีตมีความแข็งแรงและทนทานสูง สามารถผลิตได้หลายขนาด

 

อิฐปนทราย ( Sand-Lime Bricks )

อิฐปูนขาวเกิดจากการผสมทราย ปูนขาว และน้ำเข้าด้วยกัน อิฐเหล่านี้ผ่านกระบวนการบ่มด้วยไอน้ำซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน อิฐปนทรายมีชื่อเสียงในด้านความที่มีขนาดเท่ากันทุกบล็อก จึงเหมาะสำหรับการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนครับ

 

ไอเดียในการสร้างบ้านอิฐให้ดูโดดเด่น

บ้านอิฐสไตล์ดั้งเดิม

การออกแบบบ้านอิฐแบบดั้งเดิมมักได้รับแรงบันดาลใจจากช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์และอิทธิพลของภูมิภาค สไตล์ต่าง ๆ เช่น โคโลเนียล จอร์เจียน วิคตอเรียน และทิวดอร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสง่างามเหนือกาลเวลาของการก่อสร้างด้วยอิฐ ดีไซน์พวกนี้ประกอบด้วยงานอิฐที่สลับซับซ้อน การมีหน้าต่างโค้ง และรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ตามบ้าน ทำให้รู้สึกถึงมรดกทางวัฒนธรรมและเสน่ห์แบบดั้งเดิมครับ

 

บ้านสไตล์โมเดิร์น

ตรงกันข้ามกับรูปแบบดั้งเดิม บ้านที่ทำจากอิฐสมัยใหม่มีความเรียบง่าย ประกอบด้วยเส้นสายที่ดูแล้วสะอาดตา และความสวยงามแบบมินิมอล การออกแบบร่วมสมัยสามารถผสมผสานด้านหน้าอิฐที่เพรียวบางเข้ากับหน้าต่างบานใหญ่ แผนผังชั้นแบบเปิด และการตกแต่งแบบมินิมอล และการใช้ประตูอัตโนมัติ การใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะช่วยเสริมไอเดียในการก่อสร้างบ้านด้วยอิฐ สร้างความสมดุลที่กลมกลืนระหว่างประเพณีดั้งเดิมและความทันสมัยได้อย่างลงตัวครับ

 

การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและสมัยใหม่เข้าด้วยกัน

เจ้าของบ้านและสถาปนิกหลายคนเลือกใช้องค์ประกอบแบบดั้งเดิมและองค์ประกอบสมัยใหม่ในการออกแบบบ้านครับ แนวทางนี้จะผสมผสานความน่าดึงดูดใจเหนือกาลเวลาของอิฐเข้ากับคุณสมบัติร่วมสมัย ทำให้เกิดรูปแบบสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์และน่าหลงใหล การผสมผสานนี้ช่วยให้สามารถรวมความสามารถของระบบสมาร์ทโฮม วัสดุที่ยั่งยืน และแนวคิดการออกแบบที่ล้ำสมัย ในขณะที่ยังคงรักษาความอบอุ่นและลักษณะเฉพาะของอิฐได้เป็นอย่างครบถ้วนครับ

 

มาคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายกัน บ้านลักษณะนี้มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างบ้าน

ค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ที่ตั้ง ขนาด ความซับซ้อนของการออกแบบ และค่าแรง อิฐเองเป็นวัสดุที่ทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่อาจไปแพงตรงที่การจ้างคนงานที่มีทักษะในการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าบ้านอิฐมักจะมีมูลค่าการขายต่อที่สูงกว่า ซึ่งสามารถชดเชยค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านได้

 

การช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

บ้านอิฐช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างมาก คุณสมบัติในความเป็นฉนวนของอิฐสามารถลดค่าใช้จ่ายในการทำความร้อนและความเย็นได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ค่าสาธารณูปโภคลดลงเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้ ความต้องการในการบำรุงรักษาต่ำและอายุการใช้งานที่ยาวนานของบ้านอิฐยังช่วยลดความจำเป็นในการซ่อมแซมและเปลี่ยนชิ้นส่วนด้วย ซึ่งช่วยประหยัดเงินของเจ้าของบ้านในระยะยาวได้ครับ

 

นอกจากนี้ บ้านที่สร้างจากอิฐยังช่วยรักษ์โลกได้อีกด้วย

ความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

อิฐทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ดินเหนียว ซึ่งมีอยู่มากมายและหาได้ง่าย กระบวนการผลิตอิฐใช้พลังงานน้อยมากครับ โดยเฉพาะอิฐดินเผา ส่งผลให้บ้านอิฐมีรอยเท้าคาร์บอนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบ้านที่สร้างด้วยวัสดุที่ต้องใช้กระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานมาก

 

มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดี

คุณสมบัติทางความร้อนของอิฐช่วยประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อิฐมีความสามารถในการกักเก็บความร้อนที่ดีเยี่ยม ซึ่งคุณสมบัตินี้ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร ทำให้ลดความจำเป็นในการทำความร้อนและความเย็นด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น แอร์ หรือพัดลม ด้วยการลดการพึ่งพาระบบทำความเย็นให้น้อยที่สุด บ้านอิฐจึงสามารถลดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอนได้เป็นอย่างมากครับ

 

ความสามารถในการรีไซเคิล

อิฐเป็นวัสดุก่อสร้างบ้านที่สามารถรีไซเคิลได้ โดยนำไปบดและนำกลับมาใช้ใหม่ในโครงการก่อสร้างใหม่ เมื่อบ้านอิฐหมดอายุการใช้งาน อิฐสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยลดขยะและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการรีไซเคิลของอิฐนี้สนับสนุนแนวทางการจัดการขยะอย่างยั่งยืนครับ

 

สรุป

บ้านอิฐเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสวยงาม ความทนทาน และความยั่งยืน ด้วยความที่อิฐมีคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยม จึงทำให้เป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้สร้างบ้านอยู่บ่อยครั้ง และในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถนำมารีไซเคิลเพื่อใช้ในการสร้างบ้านหลังใหม่ได้เช่นกัน เป็นวัสดุที่ดีมาก ๆ เลยครับ

ที่อยู่

111/47 ม. 3  ต. บางรักน้อย
อ. เมืองนนทบุรี จ. นนทบุรี 11000

โทร

088-864-0000 (คุณมุก)

063-431-3311 (คุณอัน)

อีเมล

sales@theeasyhouse.com