สีกันสนิม มีประโยชน์อย่างไร และใช้อย่างไรให้ถูกต้อง

ทำไมจึงต้องใช้สีกันสนิม?

เหล็ก เป็นสิ่งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลายมาก แต่จุดอ่อนของเหล้กคือความง่ายต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อนขึ้น เมื่อโดนแดดโดนฝนอยู่ตลอด ซึ่งสนิมสามารถทำให้โครงสร้างภายในของเหล็กอ่อนแอลงได้ การป้องกันชิ้นส่วนเหล็กเพื่อไม่ให้เกิดสนิมและการกัดกร่อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ทำจากเหล็ก จึงทำให้ สีกันสนิม เข้ามามีบทบาทเพื่อทำให้ชิ้นส่วนที่ทำจากเหล็ก มีอายุที่ยาวนานขึ้น โดยการเข้าไปป้องกันสนิมจากการตากแดดตากฝนอยู่ตลอด

แล้ว สีกันสนิมคือ อะไรล่ะ

สีกันสนิมคือ สีที่มาสารพิเศษที่ใช้ในการเคลือบหน้าผิวของเหล็ก เป็นสารที่สามารถยับยั้งการแพร่กระจายของสนิมได้ จุดเด่นคือการสร้างชั้นผิวอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเอาไว้กันฝุ่นละอองในอากาศ กันออกซิเจน และสารอื่น ๆ ที่สามารถกัดกร่อนผิวเหล็ก และเป็นตัวการที่ทำให้เหล็กเกิดสนิม ส่วนประกอบของสีก็จะเป็นสารยับยั้งการกัดกร่อน และสารที่ยับยั้งการเกิดกฏิกิริยาออกซิไดเซชั่น

สีกันสนิม ยังช่วยให้ยืดอายุของส่วนประกอบต่าง ๆ และโครงสร้างที่เป็นเหล็กได้อีกด้วย โดยการปกป้องผิวหน้าของเหล็กจากสนิมและสารกัดกร่อน เราจะสามารถพบเห็นการใช้สีกันสนิมได้อย่างหลากหลายเลย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ การก่อสร้าง เรือดำน้ำ และ อุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ หรือแม้แต่สิ่งของรอบตัวเรา เช่น รถ หรือโครงภายในรถ ผู้ประกอบการเลือกที่จะใช้สีกันสนิมเนื่องจากสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงและซ่อมแซมและยืดอายุการใช้งานได้

ประโยชน์หลัก ๆ ของ สีกันสนิม

สีกันสนิมมีประโยชน์อย่างมากในการป้องกันหน้าสัมผัสของเหล็กไม่ให้โดนอากาศภายนอก ซึ่งทำให้เกิดสนิมได้ และยังช่วยปกป้องจากสารกัดกร่อนอีกด้วย ซึ่งสีชนิดนี้จะก่อตัวเป็นอีกชั้นหนึ่งที่คอยปกป้องเหล็ก

เมื่อพ่นสีลงไปบนเนื้อโลหะแล้ว สีที่พ่นลงไปจะจับตัวแน่นและก่อตัวเป็นชั้นที่ห่อหุ้มเหล็กเอาไว้ ซึ่งชั้นนี้จะทำหน้าที่ในการกันอากาศจากภายนอกเพื่อไม่ให้เกิดการก่อตัวของสนิมได้ แต่ตัวสีเองก็สามารถเสื่อมสภาพได้ตามกาลเวลา 

แต่ในขณะเดียวกัน สีกันสนิมก็มีจุดอ่อนอยู่เหมือนกัน แม้แต่รอยขีดข่วนเล็ก ๆ ก็อาจทำให้เกิดช่องว่างระหว่างสีได้ ซึ่งทำให้อากาศจากภายนอกสามารถเข้าสู่เหล็กผ่านสีได้เลย ซึ่งอาจทำให้เกิดสนิมขึ้นจจากภายในได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพ่นสีกันสนิมลงไปที่โลหะ ก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าตัวสีจะสามารถปกป้องเหล็กได้อย่างแน่นอน 

 ในสีกันสนิม จะมีสารที่ยับยั้งการเกิดปฏิกริยากัดกร่อนด้วย ซึ่งทำให้การปกป้องเหล็กนั้น มีประสิทธิภาพขึ้นไปอีก สารยับยั้งนี้จะคอยยับยั้งการเกิดปฏิกริยาที่สามารถก่อตัวขึ้นเป็นสนิมได้ ทำให้เหล็กมีอายุที่ยาวนานขึ้น

สีกันสนิม ใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การเตรียมเหล็กก่อนพ่นสีกันสนิม  

โดยการเช็คให้แน่ใจว่าหน้าสัมผัสของเหล็กที่จะพ่นสีนั้นสะอาด แห้ง และไม่มีฝุ่นเกาะอยู่ ใช้แปรงลวด หรือกระดาษทรายขัดสีเก่าหรือสนิมออกให้หมด ขั้นตอนนี้สำคัญมากเพื่อที่จะทำให้สีกันสนิมมีประสิทธิภาพสูงสุด

เลือกสีกันสนิมให้เหมาะกับชิ้นงาน

เมื่อเตรียมเหล็กเสร็จแล้ว ควรเลือกซื้อสีกันสนิมให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของเราที่จะใช้งานเหล็กชิ้นนั้น คำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อม และเราต้องพ่นสีลงไปเยอะขนาดไหน ซึ่งมีทางเลือกต่าง ๆ ในการพ่นสีที่เยอะมาก โดยสีกันสนิมมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ๆ คือ

1.สีกันสนิมอีพอกซี่ ( Epoxy Coating ) มีคุณภาพที่สูงมาก โดยสามารถทนทานต่อการขูดได้เป็นอย่างดี แต่สามารถใช้งานได้ยาก เนื่องจากผู้ใช้จำเป็นที่จะต้องผสมสีเอง โดยอ่านคู่มือตามที่กำหนดเท่านั้น สีชนิดนี้จะเหมาะกับงานที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ ไม่จำเป็นที่จะต้องทาสีใหม่บ่อย ๆ เช่น สิ่งก่อสร้างที่อยู่ใกล้ทะเล หรือโครงเหล็กที่มีราคาสูง หรือแม้แต่เครื่องบิน

2.สีกันสนิมอัลคิดเรซิน ( Alkyd Resin ) สีชนิดนี้จะพบได้ทั่วไป และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย มีความทนทานในระดับหนึ่ง กันสนิมได้ดีพอสมควร และผสมสีเองไม่ยาก แต่ควรทาสีจริงทับอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

3.สีกันสนิมเรดเลด ( Red Lead ) สีชนิดนี้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง เพราะสามารถป้องกันการเกิดสนิมได้ดีมาก มักมีการใส่สารเพิ่มเข้าไปเพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพในการสนิมที่สูง มักจะใช้ในงานอุตสาหกรรม งานโครงสร้างขนาดใหญ่ 

ทำการลงสีที่ชิ้นงาน

อ่านคู่มือในการใช้สีอย่างถี่ถ้วน เช่น การผสมสี การใช้เทคนิคลงสีที่ถูกต้อง และทำการลงสีที่ชิ้นงาน โดยพยายามลงสีให้เท่ากันในทุก ๆ ส่วน และครอบคลุมทุกส่วนของชิ้นงาน และพยายามให้ความหนาของสีเท่ากัน ไม่หนาหรือบางจนเกินไป หลีกเลี่ยงการลงสีที่มากไป เพราะจะทำให้หยดหรือแห้งช้าได้

รอสีแห้ง

รอให้สีกันสนิมที่ได้พ่นไปก่อนหน้าค่อย ๆ แห้งและเซ็ตตัว ขั้นตอนนี้ก็สำคัญมาก ๆ เพราะว่าสีกำลังก่อตัวเป็นชั้นป้องกันชิ้นงาน ระยะเวลาในการเซ็ตตัวอาจต่างกันออกไปตามแต่ละชนิดของสีและสภาพอากาศตอนนั้นด้วย และเมื่อสีแห้งแล้วเช็คตัวชิ้นงานว่าสีที่พ้นนั้นเรียบดีมั้ย มีจุดไหนที่ไม่ได้พ่นบ้าง

อุตสาหกรรมไหนบ้างที่ใช้ สีกันสนิม

สีกันสนิม นิยมใช้ในหลายอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างแพร่หลายมาก เช่น อุตสาหกกรมยานยนต์ ซึ่งใช้ในการปกป้องเหล็กจากการกัดกร่อนเป็นหลัก โดยก่อนที่จะพ่นสีลงไปบนตัวรถ ผู้ผลิตเองก็จะคำนวณแล้วว่าควรใช้สีมากขนาดไหนในการปกป้องรถจากสภาพอากาศของประเทศนั้น ๆ

อุตสาหกรรมก่อสร้าง เองก็นิยมใช้สีกันสนิมเช่นกัน เช่น การสร้างตึก สะพาน บ้านน็อคดาวน์ และโครงสร้างภายในต่าง ๆ เพื่อใช้ในการป้องกันสนิมเป็นหลัก เพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุดให้กับสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ เป็นการยืดอายุให้กับสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ และยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาด้วย มากไปกว่านั้น สีกันสนิมยังช่วยให้สิ่งปลูกสร้างนั้นดูสวยขึ้นอีกด้วย

อุตสาหกรรมเรือ ก็ใช้สีกันสนิมเหมือนกันนะ! อุตสาหกรรมประเภทนี้จะนิยมใช้สีกันสนิมเป็นพิเศษ เพราะว่าตัวเรือนั้นมีหน้าสัมผัสที่สัมผัสกับสารที่สามารถทำให้เกิดการกัดกร่อนได้ตลอดเวลา เช่น น้ำทะเล ซึ่งก่อนที่จะทำการพ่นสีลงไปนั้น ผู้ผลิตก็จะคำนวณระยะเวลาในการใช้งานไว้อย่างชัดเจนแล้ว 

 อุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ นิยมใช้สีกันสนิมมากเพื่อใช้ในการป้องกันเครื่องจักรต่าง ๆ เพราะว่าตัวเครื่องจักรเองสัมผัสกับอากาศภายนอก สารเคมีต่าง ๆ และสารที่สามารถทำให้เกิดการกัดกร่อนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสีกันสนิมสามารถลดโอกาสการเกิดการขัดข้องของเครื่องจักรนั้น ๆ ได้

แล้วสีกันสนิมดูแลยังไง

การที่จะทำให้สีกันสนิมที่พ่นลงไปนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด ต้องเริ่มมาจากการขัดพื้นผิวของชิ้นงานให้เรียบ และสะอาดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น ปัดดินออก หรือเศษต่าง ๆ ที่เกาะติดชิ้นงานออกให้หมด ซึ่งรวมไปถึงการเตรียมพื้นผิวให้เรียบและเนียนก่อนที่จะลงสีกันสนิมโดยการใช้สีรองพื้นครับ

การพ่นสีให้บางก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน แต่อย่าบางจนเกินไป จำนวนครั้งในการพ่นทับก็ด้วย การอ่านคู่มือในการลงสีเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก การพ่นสีที่หนาเกินไปจะทำให้เกิดโอกาสในการสีร่อนได้สูง หรือว่าการพ่นสีบางเกินไปก็จะทำให้สีแต่ละส่วนใช้เวลาในการแห้งไม่เท่ากัน

การตรวจเช็คสีว่ามีตรงไหนบ้างที่มีร่องรอยของการขีดช่วน หรือร่องรอยการใช้งานบ้าง ถ้าหากสีบริเวณนั้นเริ่มที่จะลอกก็ควรที่จะพ่นทับลงไปเพื่อทำให้สามารถป้องกันสนิมได้เหมือนเดิมครับ

สรุป

สีกันสนิม ถูกใช้เพื่อป้องกันเหล็กเพื่อไม่ให้เกิดสนิมโดยเฉพาะ โดยจะสร้างเป็นชั้นขึ้นมาเพื่อปกป้องเหล็กจากอากาศภายนอก และสารที่อาจกัดกร่อนเหล็กได้ สีกันสนิมนั้น นิยมใช้ในหลากหลายสุตสาหกรรมมาก ๆ เนื่องจากเป็นสีที่ทำให้เหล็กนั้นมีอายุที่ยาวนานขึ้นแล้ว ยังช่วยไม่ให้ผู้ใช้ต้องเสียค่าบำรุงรักษาเยอะขึ้นอีกด้วย และการที่จะให้สีกันสนิมที่พ่นลงไปเกิดประโยชน์สูงสุด ต้องดีตั้งแต่เตรียมชิ้นงานเลยครับ