ห้องน้ำมีกลิ่นเหม็น ห้องน้ำเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา แต่ก็สามารถกลายเป็นแหล่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำเคลื่อนที่หรือห้องน้ำภายในบ้านก็ตาม ห้องน้ำที่มีกลิ่นหอมสดชื่นไม่เพียงทำให้รู้สึกผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สุขอนามัยของคุณนั้นดีขึ้นอีกด้วย และในบทความนี้ เราจะสำรวจสิบวิธีที่ได้ผลในการกำจัดกลิ่นเหม็นในห้องน้ำของคุณให้กลับมาหอมสุดชื่นกัน และเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและน่าอยู่สำหรับคุณและครอบครัวกันครับ มาอ่านกันได้เลย

ห้องน้ำมีกลิ่นเหม็น เกิดขึ้นได้อย่างไร แก้ไขอย่างไร 10 วิธีกำจัดกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ

เมื่อพูดถึงห้องน้ำ เราทุกคนล้วนต้องการพื้นที่ที่มีกลิ่นสดชื่นและสะอาด อย่างไรก็ตาม กลิ่นที่หอมสดชื่นนั้นสามารถถูกกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาแทนที่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนที่เข้าไปรู้สึกอึดอัด ทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มาจากท่อระบายน้ำไปจนถึงกลิ่นอับที่เกิดจากเชื้อราก็ตาม มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมในห้องน้ำที่ไม่พึงประสงค์ครับ

10 วิธีกำจัด ห้องน้ำมีกลิ่นเหม็น ให้อยู่หมัด!!!

1.ทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ

การทำความสะอาดเป็นประจำเป็นพื้นฐานของการรักษาห้องน้ำให้มีกลิ่นหอมสดชื่น ด้วยการรวมกิจวัตรการทำความสะอาดเข้ากับตารางเวลาของคุณ คุณสามารถป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก รอยเปื้อน และแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเริ่มด้วยการเน้นพื้นที่ที่มีการสัญจรไปมาเยอะไปน้อยครับ เช่น ห้องสุขา อ่างล้างหน้า และฝักบัว 

เพื่อทำความสะอาดห้องน้ำของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับพื้นผิวแต่ละประเภท ตัวอย่างเช่น น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะสำหรับห้องน้ำสามารถใช้กับเคาน์เตอร์และอ่างล้างจานได้ ในขณะที่สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดกระเบื้องและยาแนวเพื่อขจัดคราบสบู่และเชื้อรา และสำคัญที่สุด อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตและใช้ถุงมือป้องกันเมื่อจำเป็นครับ

2.ทำให้ห้องน้ำมีการถ่ายเทอากาศอยู่ตลอด

การระบายอากาศที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำจัดกลิ่นเหม็นและดูแลห้องน้ำให้สดชื่น เมื่อห้องน้ำขาดการระบายอากาศที่เหมาะสม ระดับความชื้นจะสูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเจริญเติบโตของเชื้อราได้ ซึ่งทำให้ส่งกลิ่นเหม็นอับ การติดตั้งพัดลมดูดอากาศหรือตรวจสอบว่าพัดลมที่มีอยู่ทำงานอย่างถูกต้องสามารถช่วยขจัดความชื้นออกจากห้องน้ำได้ครับ

หากคุณมีพัดลมดูดอากาศอยู่แล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสะอาดและไม่มีสิ่งกีดขวาง หมั่นทำความสะอาดหรือเปลี่ยนแผ่นกรองเพื่อรักษาประสิทธิภาพให้ดีอยู่ตลอด หากห้องน้ำของคุณไม่มีพัดลมดูดอากาศ ให้พิจารณาติดตั้งเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศและป้องกันการสะสมของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

3.ใช้ผลิตภัณฑ์ปรับอากาศที่มาจากธรรมชาติ

แม้ว่าน้ำหอมปรับอากาศที่ขายตามท้องตลาดอาจช่วยบรรเทากลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ชั่วคราว แต่ก็มักจะมีส่วนผสมของน้ำหอมสังเคราะห์และสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้ ให้พยายามเลือกใช้น้ำหอมปรับอากาศจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้แทน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ปรับอากาศที่ทำจากธรรมชาติจะมีให้เลือกดังนี้ครับ

น้ำมันหอมระเหย: น้ำมันหอมระเหย เช่น ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส และเลมอน สามารถกำจัดกลิ่นและให้กลิ่นที่สดชื่นในห้องน้ำของคุณได้อย่างยาวนานเลยทีเดียว หยด 2-3 หยดลงในดิฟฟิวเซอร์หรือผสมกับน้ำในขวดสเปรย์และทำการสเปรย์ในห้องน้ำเพื่อให้อากาศสดชื่นตามธรรมชาติครับ

น้ำส้มสายชู: น้ำส้มสายชูเป็นที่รู้จักดีมาก ๆจากคุณสมบัติในการดับกลิ่นที่หมดจด ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำในสัดส่วนเท่า ๆ กันในขวดสเปรย์ แล้วใช้เพื่อทำให้พื้นผิวห้องน้ำสดชื่น กลิ่นน้ำส้มสายชูจะกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือพื้นที่ที่มีกลิ่นสดชื่นครับ

เบกกิ้งโซดา: เบกกิ้งโซดาเป็นสารกำจัดกลิ่นตามธรรมชาติที่หลากหลายและมีราคาไม่แพง โรยเบกกิ้งโซดาลงในโถชักโครกหรือตามท่อระบายน้ำ แล้วปล่อยทิ้งไว้สักครู่ก่อนกดน้ำหรือล้างออก มันจะดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และทิ้งกลิ่นที่สะอาดสดชื่นไว้อีกด้วย

4.ทำความสะอาดแบบ Deep Cleaning

บางครั้ง การทำความสะอาดเป็นประจำอาจไม่เพียงพอสำหรับจัดการกับกลิ่นห้องน้ำที่ฝังแน่น ในกรณีเช่นนี้ การใช้เทคนิคการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกสามารถช่วยขจัดคราบสกปรก รอยเปื้อน และแบคทีเรียที่ฝังลึกได้ ต่อไปนี้คือจุดที่ควรให้ความสำคัญเมื่อทำความสะอาดห้องน้ำครับ

ท่อระบายน้ำ: เมื่อเวลาผ่านไป เส้นผม คราบสบู่ และเศษขยะอื่น ๆ อาจสะสมอยู่ในท่อระบายน้ำ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ในการกำจัดแหล่งที่มาของกลิ่นนี้ ให้เริ่มด้วยการถอดฝาครอบท่อระบายน้ำออกและนำเศษขยะที่มองเห็นได้ออกด้วยตนเองก่อน จากนั้น เทส่วนผสมของน้ำร้อนและน้ำส้มสายชูลงในท่อระบายน้ำเพื่อสลายสิ่งสะสมที่ยังหลงเหลืออยู่ สุดท้าย ให้ล้างท่อระบายน้ำด้วยน้ำร้อนเพื่อขจัดเศษที่หลุดออก

ห้องน้ำ: ห้องสุขามีแนวโน้มที่จะเกิดคราบและกลิ่น เริ่มด้วยการใช้น้ำยาล้างโถชักโครกหรือส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดาทาด้านในโถ ใช้แปรงขัดพื้นห้องน้ำให้ทั่ว โดยเน้นที่ขอบของชัดโครกและใต้ที่นั่ง หลังจากขัดแล้ว ให้กดชักโครกเพื่อล้างสารทำความสะอาดออกและเเราจะรู้สึกได้ว่าโถสุขภัณฑ์ของเรานั้นมีกลิ่นหอมสดชื่น

ยาแนว: ยาแนวระหว่างกระเบื้องสามารถสะสมคราบสกปรกและเชื้อราได้ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับได้ ทำส่วนผสมโดยผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำ แล้วทาลงบนยาแนว ปล่อยทิ้งไว้สักครู่ก่อนขัดด้วยแปรงยาแนว แล้วทำการล้างบริเวณนั้นด้วยน้ำเพื่อขจัดคราบและเราจะเห็นยาแนวที่สะอาด

ด้วยการใช้เทคนิคการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกเหล่านี้เป็นประจำ คุณสามารถกำจัดแหล่งที่มาของกลิ่นเหม็นที่ซ่อนอยู่และฝังแน่น ทำให้เราสามารถรักษาห้องน้ำให้มีกลิ่นหอมสดชื่นได้อยู่ตลอดครับ

5.กำจัดเชื้อรา

เชื้อราเป็นตัวการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังกลิ่นห้องน้ำที่เหม็นและอับอยู่ตลอดเวลา เชื้อราเหล่านี้เติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น ทำให้ห้องน้ำเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราที่ดีมาก ๆ และเพื่อจัดการกับเชื้อราและป้องกันกลิ่นที่เกี่ยวข้อง การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาเชื้อราในห้องน้ำได้ครับ

ระบุจุดที่เป็นปัญหา: ตรวจสอบห้องน้ำของคุณเพื่อหาร่องรอยของราที่สามารถมองเห็นได้ เช่น จุดสีดำหรือกลิ่นอับ โดยให้ความสนใจกับพื้นที่ที่มีความชื้นได้ง่าย เช่น รอบฝักบัว อ่างอาบน้ำ และอ่างล้างจาน และชักโครกครับ

ทำความสะอาดและนำเชื้อราออก: ผสมสารละลายในน้ำและสารฟอกขาวหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในปริมาณเท่า ๆ กัน ใช้น้ำยากับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยใช้ฟองน้ำหรือขวดสเปรย์ ปล่อยให้นั่งสักครู่ก่อนที่จะขัดพื้นที่เป็นเชื้อราด้วยแปรง ตามด้วยล้างบริเวณนั้นให้สะอาดและเช็ดให้แห้งสนิทครับ

การป้องกันการเติบโตในอนาคต: เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมาโตในห้องน้ำของคุณอีก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าห้องน้ำของคุณมีอากาศถ่ายเทสะดวก ใช้พัดลมดูดอากาศหรือเปิดหน้าต่างระหว่างและหลังอาบน้ำเพื่อลดความชื้น เช็ดพื้นผิวที่เปียก เช่น ผนังห้องอาบน้ำและประตูหลังการใช้งานแต่ละครั้ง พิจารณาใช้สีที่กันเชื้อราหรือเติมสารเติมแต่งที่สามารถยับยั้งเชื้อราลงในสีของคุณเมื่อทาสีห้องน้ำใหม่

6.แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของท่อประปา

ปัญหาท่อประปามักเป็นสาเหตุที่ซ่อนเร้นของกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ การรั่วไหล การอุดตัน และแก๊สในท่อน้ำทิ้งสามารถนำไปสู่กลิ่นที่คงอยู่ถาวรได้ ซึ่งยากต่อการกำจัดโดยไม่จัดการกับปัญหาพื้นฐานซะก่อน ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยไกด์ให้คุณสามารถกำจัดต้นตอของกลิ่นเหม็นที่มาจากท่อประปาได้ครับ

ระบุแหล่งที่มา: หากคุณได้รับกลิ่นเหม็นในห้องน้ำ ให้พยายามหาแหล่งที่มาของกลิ่นนั้น ๆ ตรวจสอบรอยรั่วหรือสัญญาณความเสียหายจากน้ำที่มองเห็นได้ นอกจากนี้ ให้สังเกตเสียงน้ำหยดหรือน้ำที่ค่อย ๆ หยด จากอ่างล้างมือ อ่างอาบน้ำ หรือชักโครก

โทรหาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณสงสัยว่าปัญหาท่อประปาเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็น ควรปรึกษาช่างประปามืออาชีพ ที่มีความชำนาญและเครื่องมือในการตามหาต้นตอและแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นท่อรั่ว ท่อระบายน้ำอุดตัน หรือระบบบำบัดน้ำเสียทำงานผิดปกติ ช่างประปาจะสามารถดำเนินการซ่อมแซมที่จำเป็นและกำจัดกลิ่นได้อย่างถูกจุดครับ

การบำรุงรักษาตามปกติ: เพื่อป้องกันปัญหาท่อประปาและกลิ่นที่เกี่ยวข้องในอนาคต ให้พิจารณากำหนดเวลาการตรวจสอบการบำรุงรักษาเป็นประจำกับช่างประปา พวกเขาสามารถตรวจสอบระบบประปาของคุณ ระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และดำเนินการบำรุงรักษาที่จำเป็นเพื่อให้ทุกอย่างทำงานได้ตามปกติครับ

7.ใช้วัสดุดูดซับกลิ่น

การใช้วัสดุดูดซับกลิ่นในห้องน้ำสามารถช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นและทำให้ห้องน้ำมีกลิ่นหอมได้ครับ วัสดุเหล่านี้ทำงานโดยการดักจับและดูดซับกลิ่น ทำให้อากาศมีกลิ่นสดชื่น ซึ่งวัสดุที่สามารถใช้ดับปลิ่นภายในห้องน้ำได้จะมีประมาณนี้ครับ

ถ่านกัมมันต์: ถ่านกัมมันต์เป็นตัวดูดซับกลิ่นตามธรรมชาติที่สามารถวางไว้ในภาชนะหรือซองขนาดเล็กและวางในตำแหน่งที่เหมาะสมในห้องน้ำของคุณ ช่วยดูดซับความชื้นและกลิ่น ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เปลี่ยนถ่านทุกสองสามเดือนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ซิลิกาเจล: ซองซิลิกาเจลจะสามารถพบได้ทั่วไปในบรรจุภัณฑ์สินค้าต่าง ๆ สามารถใช้เพื่อดูดซับความชื้นและกลิ่นในห้องน้ำของคุณ วางไว้ในบริเวณที่ชื้นง่าย เช่น ใต้อ่างล้างจานหรือใกล้ฝักบัว เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่ามีการดูดซับกลิ่นอย่างต่อเนื่อง

เบคกิ้งโซดา: เบคกิ้งโซดาขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติในการดับกลิ่น สามารถใช้เป็นตัวดูดซับกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเติมเบกกิ้งโซดาลงในชามหรือจานเล็ก ๆ แล้ววางไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของห้องน้ำ และเปลี่ยนเบกกิ้งโซดาเป็นประจำเพื่อรักษาความสามารถในการดูดซับกลิ่นให้ดีอยู่ตลอดครับ

 

8.กำจัดของเสียให้ถูกต้อง

การกำจัดขยะอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันกลิ่นเหม็นในห้องน้ำของคุณ ขยะสะสมต่าง ๆ เช่น กระดาษทิชชูที่ใช้แล้ว ผ้าอนามัย หรือผ้าอ้อม ขยะเหล่านี้สามารถส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ หากไม่กำจัดอย่างถูกวิธีและอย่างทันท่วงที ปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้เพื่อการกำจัดขยะที่เหมาะสม:

ปิดถังขยะให้สนิท: ใช้ถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อบรรจุของเสียในห้องน้ำ สิ่งนี้จะช่วยป้องกันกลิ่นไม่ให้แพร่กระจาย และลดความเสี่ยงในการดึงดูดแมลงและสัตว์ต่าง ๆ เลือกถังขยะที่มีแผ่นรองที่เปลี่ยนได้ง่ายเพื่อรักษาความสะอาด

กำจัดขยะในห้องน้ำอยู่เป็นประจำ: นำขยะที่อยู่ในถังขยะไปทิ้งอย่างเป็นประจำเพื่อป้องกันการสะสมของขยะและกำจัดกลิ่นที่ไม่ดีออกไปด้วยครับ ถ้าเป็นไปได้ ให้ทิ้งขยะในถังขยะกลางแจ้งเพื่อลดกลิ่นในห้องน้ำของคุณ

 

9.เปลี่ยนผ้าปูพื้นห้องน้ำและผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ

ผ้าขนหนูและผ้าปูพื้นในห้องน้ำของคุณสามารถดูดซับความชื้นได้ดีมาก ๆ และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียซึ่งสามารถทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ การเปลี่ยนและซักสิ่งของเหล่านี้เป็นประจำ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาห้องน้ำให้มีกลิ่นหอมสดชื่นอยู่ตลอด

ผ้าขนหนู: ใช้ผ้าขนหนูสะอาดหลังอาบน้ำทุกครั้ง แขวนให้แห้งเพื่อป้องกันไม่ให้ชื้นและเกิดกลิ่นอับ ซักผ้าขนหนูเป็นประจำ ควรซักทุกๆ 2-3 วัน โดยใช้น้ำร้อนและน้ำยาซักผ้าอ่อน ๆ ครับ

ผ้าปูพื้นห้องน้ำ:ผ้าปูพื้นห้องน้ำสามารถกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้อย่างง่ายดาย ซักผ้าปูพื้นเป็นประจำตามคำแนะนำของผู้ผลิต และเลือกใช้เสื่อที่มีแผ่นรองกันลื่นที่สามารถทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งได้ง่าย

10.ตกแต่งห้องน้ำด้วยพืชและดอกไม้ต่าง ๆ

การนำต้นไม้และดอกไม้สดเข้ามาในห้องน้ำของคุณไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นได้อีกด้วย พืชบางชนิดมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศตามธรรมชาติและสามารถกำจัดกลิ่นในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พิจารณาตัวเลือกต่อไปนี้:

เดหลี: ดอกเดหลีมีชื่อเสียงมาก ๆ ในความสามารถในการกรองมลพิษทางอากาศภายในอาคาร ดอกเดหลีเติบโตในสภาพแสงน้อยและสามารถช่วยกำจัดกลิ่นในขณะที่เพิ่มความสวยงามและความผ่อนคลายให้กับห้องน้ำของคุณด้วย

ต้นบอสตันเฟิร์น: บอสตันเฟิร์นเป็นเครื่องฟอกอากาศตามธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ และสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศในห้องน้ำของคุณ ต้นบอสตันเฟิร์นชอบความชื้นสูงและแสงอ่อน ๆ ทำให้เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมในห้องน้ำเป็นอย่างยิ่งครับ

ยูคาลิปตัส: การแขวนยูคาลิปตัสแห้งหนึ่งพวงในห้องอาบน้ำของคุณ ต้นนี้สามารถปล่อยกลิ่นที่สดชื่นเมื่อสัมผัสกับไอน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยล้างจมูกและส่งเสริมบรรยากาศเหมือนในห้องน้ำของคุณให้เหมือนอยู่ในสปาได้อีกด้วย

และเราก็ยังมี 10 ไอเดียปลูกพืชในห้องน้ำ สำหรับคนที่อยากเลี้ยงพืชในห้องน้ำด้วยนะ คลิกเลย!

สรุป

การมีห้องน้ำที่มีกลิ่นหอมเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษาบ้านให้สะอาดและสะดวกสบาย โดยทำตาม 10 วิธีที่ระบุไว้ในบทความนี้ คุณจะสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่สำหรับตัวคุณเองและครอบครัว ตั้งแต่การทำความสะอาดเป็นประจำและการระบายอากาศที่เหมาะสม ในแต่ละวิธีก็จะมีบทบาทสำคัญในการรักษาห้องน้ำให้สดชื่นและปราศจากกลิ่น ใช้กลยุทธ์เหล่านี้และบอกลากลิ่นห้องน้ำที่ไม่พึงประสงค์ได้เลย

ที่อยู่

111/47 ม. 3  ต. บางรักน้อย
อ. เมืองนนทบุรี จ. นนทบุรี 11000

โทร

088-864-0000 (คุณมุก)

063-431-3311 (คุณอัน)

อีเมล

sales@theeasyhouse.com