บ้านลอฟท์ และบ้านอิฐ เป็นบ้านสองสไตล์ที่มีความใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัว บ้านสไตล์ลอฟท์และบ้านสไตล์อิฐ ต่างก็ตอบสนองรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกัน นำเสนอคุณลักษณะและข้อได้เปรียบที่โดดเด่น และในบทความนี้ เราจะมาสำรวจความแตกต่างระหว่างบ้านทั้งสองสไตล์นี้กันครับ โดยเจาะลึกถึงการออกแบบสถาปัตยกรรม วัสดุก่อสร้าง ความสวยงามภายในบ้าน ลักษณะการตกแต่งบ้านที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนกันครับ

บ้านลอฟท์ และบ้านอิฐ แม้จะใกล้เคียงกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนนะ

เมื่อพูดถึงพื้นที่ใช้สอยสมัยใหม่ บ้านสไตล์ลอฟท์และบ้านอิฐนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก บ้านสไตล์ลอฟท์มีลักษณะแบบแปลนพื้นที่เปิดโล่ง เพดานสูง และองค์ประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคอุตสาหกรรม ในขณะที่บ้านอิฐแสดงออกถึงความคลาสสิกและสวยงามตลอดกาลด้วยการตกแต่งภายนอกด้วยอิฐและการตกแต่งภายในที่ดูอบอุ่นและกลมกลืน การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างรูปแบบสถาปัตยกรรมทั้งสองนี้สามารถช่วยเจ้าของบ้านสามารถเลือกตกแต่งบ้านได้อย่างถูกต้องมากขึ้นครับ

การดีไซน์สถาปัตยกรรมและโครงสร้างของบ้านทั้งสอง

 

บ้านลอฟท์

แปลนพื้นแบบเปิดโล่งและมีเพดานสูง บ้านสไตล์ลอฟท์มักจะใช้แบบแปลนพื้นแบบเปิด ขจัดการแบ่งห้องแบบเดิม ๆ โดยกำจัดกำแพงกั้นห้องออกไป ผลคือสามารถสร้างความรู้สึกของพื้นที่นั้นให้กว้างขึ้นได้ การไม่มีผนังและประตูที่คอยกั้นระหว่างห้องช่วยให้การจัดที่อยู่อาศัยมีความยืดหยุ่นและทำให้พื้นที่ต่าง ๆ เชื่อมต่อกันมากยิ่งขึ้น การเดินจากที่หนึ่งสู่อีกที่หนึ่งจะรู้สึกได้ว่าเชื่อมต่อกันมากขึ้น นอกจากนี้ เพดานสูงยังช่วยสร้างความรู้สึกโอ่อ่าและเพิ่มความสวยงามโดยรวมของพื้นที่

ผนังอิฐหรือคอนกรีตเปลือย เพื่อเพิ่มสัมผัสแบบยุคอุตสาหกรรม บ้านสไตล์ลอฟท์มักจะผสมผสานผนังอิฐหรือคอนกรีตเปลือยเข้าไปด้วย องค์ประกอบที่ดิบและยังไม่เสร็จเหล่านี้เป็นจุดเด่นมาก ๆ ของบ้านสไตล์นี้ ทำให้มีลักษณะเฉพาะในการออกแบบตกแต่งภายใน การวางพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัยทำให้เกิดความสวยงามโดดเด่น

องค์ประกอบแบบอุตสาหกรรมและหน้าต่างบานใหญ่ บ้านสไตล์ลอฟท์มักมีองค์ประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคอุตสาหกรรม เช่น คานเหล็ก ท่อ และระบบกลไกแบบเปิดโล่ง องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยสร้างความสวยงามโดยรวมและเน้นให้เห็นถึงต้นกำเนิดทางอุตสาหกรรมของอาคาร หน้าต่างบานใหญ่เป็นคุณลักษณะทั่วไปที่ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในพื้นที่และให้ทัศนียภาพอันน่าทึ่งของภูมิทัศน์เมืองโดยรอบ

 

บ้านอิฐ

การใช้อิฐตกแต่งภายนอกบ้าน บ้านอิฐขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามเหนือกาลเวลาและโครงสร้างบ้านที่มีความแข็งแรงและทนทาน ผนังภายนอกมักก่อด้วยอิฐซึ่งมีสีและลวดลายแตกต่างกันไป บ้านที่มีลักษณะนี้จะเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่กำลังค้นหาบ้านที่มีความคลาสสิกและความคงทนไปด้วยในเวลาเดียวกันครับ

มีโครงร้างบ้านที่แข็งแรงและตัวบ้านเองก็ถึกทนเช่นกัน ก้อนอิฐนั้นมีคุณสมบัติของความทนทานและความแข็งแรงเป็นพิเศษ ทำให้บ้านอิฐมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรง และช่วยให้เราอุ่นใจได้ถึงความสมบูรณ์ของโครงสร้างอยู่ตลอด กำแพงอิฐยังทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยมและเอื้อต่อสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบาย

มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย บ้านอิฐสามารถพบได้ในรูปแบบสถาปัตยกรรมต่าง ๆ เช่น โคโลเนียล ทิวดอร์ ช่างฝีมือ และวิคตอเรียน ความอเนกประสงค์ของอิฐช่วยให้สามารถออกแบบได้หลากหลาย ทำให้เจ้าของบ้านสามารถเลือกสไตล์ที่เหมาะกับความชอบและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างอิสระเลยครับ

วัสดุที่ใช้ก่อสร้างบ้านและเทคนิคในการก่อสร้าง

บ้านสไตล์ลอฟท์

โครงเหล็กหรือไม้ เพื่อรองรับแปลนพื้นที่เปิดโล่งและเพดานสูง บ้านสไตล์ลอฟท์มักจะใช้โครงเหล็กหรือไม้ ซึ่งวัสดุเหล่านี้มีโครงสร้างที่มั่นคงในขณะที่เปิดพื้นที่โล่งกว้างโดยไม่ต้องใช้ผนังรับน้ำหนักแต่อย่างใดครับ

ฉากกั้นห้องที่ทำจากโลหะหรือกระจก แทนที่จะใช้ผนังแบบดั้งเดิมซึ่งเป็นปูน บ้านสไตล์ลอฟท์มักจะใช้ฉากกั้นที่ทำจากโลหะหรือกระจกเพื่อแยกพื้นที่ใช้งานต่าง ๆ การใช้วัสดุเหล่านี้ในการแบ่งพื้นที่ห้องต่าง ๆ ไม่เพียงแต่จะทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ยังคงโล่งอยู่ แต่ยังสามารถให้แสงส่องไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของบ้านได้อย่างเต็มที่ด้วยครับ

การนำวัสดุต่าง ๆ กลับมาใช้ใหม่ ความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของบ้านสไตล์ลอฟท์ เจ้าของบ้านและสถาปนิกจำนวนมากเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล เช่น ไม้ที่นำกลับมาใช้ใหม่หรือโลหะที่ซ่อมแซมแล้ว เพื่อรวมองค์ประกอบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้าไปในกระบวนการก่อสร้าง วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงช่วยในการเพิ่มลักษณะเฉพาะ แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนโดยรวมของบ้านด้วย

 

บ้านที่ทำจากอิฐ

กำแพงอิฐและปูน วัสดุก่อสร้างหลักในบ้านอิฐก็คืออิฐเองนั่นแหละครับ อิฐเหล่านี้ถูกวางอย่างรอบคอบโดยใช้ปูน ซึ่งทำหน้าที่เป็นกาวที่คอยยึดก้อนอิฐเข้าด้วยกันนั่นเอง ทำให้ได้โครงสร้างบ้านที่แข็งแรงและทนทาน การใช้อิฐและปูนในการสร้างบ้านและผนังภายในบ้านจะทำหน้าที่เป็นฉนวนป้องกันเสียงและทนไฟได้ดีเยี่ยมเลยครับ

ฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยทั่วไปบ้านอิฐจะมีฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อเป็นฐานที่มั่นคงสำหรับโครงสร้าง ฐานรากเหล่านี้ช่วยให้น้ำหนักของผนังอิฐและบ้านทั้งหลังกระจายเท่า ๆ กัน ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านโครงสร้างหรือการทรุดตัวเมื่อเวลาผ่านไป

อิฐทนฝนฟ้าได้เป็นอย่างดี อิฐที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านอิฐ จะได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทนทานต่อความชื้น ความผันผวนของอุณหภูมิ และรังสียูวี ทำให้มั่นใจได้ว่าภายนอกบ้านจะคงสภาพดีไปอีกหลายสิบปีกันเลย

กระบวนการซ่อม ฝ้าเพดาน ให้กลับมาเหมือนใหม่

 

วิธีการรับมือชั่วคราวเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

ในขณะที่คุณดำเนินการซ่อมแซมให้กลับมาสวยอย่างถาวร สิ่งสำคัญคือต้องใช้การซ่อมแซมชั่วคราวเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม ใช้ถังหรือผ้าใบกันน้ำเพื่อเก็บน้ำและป้องกันบริเวณโดยรอบจากการสัมผัสกับน้ำเพิ่มเติม ขั้นตอนนี้มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกระบวนการซ่อมแซมต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง

ซ่อมร่องรอยคราบน้ำฝนบนฝ้าเพดาน

ในการแก้ปัญหาคราบน้ำ ให้เริ่มด้วยการทำความสะอาดบริเวณที่ได้รับผลกระทบให้ทั่ว ใช้น้ำผสมผงซักฟอกอ่อน ๆ ขัดเบา ๆ บนที่คราบสกปรก หากคราบยังคงอยู่ คุณสามารถลองใช้ส่วนผสมของสารฟอกขาวกับน้ำได้ แต่ควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยที่เหมาะสม หลังจากทำความสะอาด ปล่อยให้เพดานแห้งสนิทก่อนดำเนินการขั้นตอนต่อไปครับ

ซ่อมแซมฝ้า หากว่าเพดานเกิดหย่อน

การซ่อมแซมเพดานที่หย่อนต้องใช้ความระมัดระวังและความชำนาญ หากคุณไม่มั่นใจในการจัดการซ่อมแซมด้วยตัวเอง ขอแนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ช่างมืออาชีพสามารถประเมินความเสียหายของโครงสร้าง และซ่อมแซมได้ถูกจุด และทำให้เพดานกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมได้ครับ

การทาสีใหม่และเก็บงานให้เรียบร้อย

เมื่อการซ่อมแซมเสร็จสิ้น ก็ถึงเวลาเก็บงานให้เรียบร้อย เริ่มต้นด้วยการรองพื้นบริเวณที่ได้รับผลกระทบด้วยสีรองพื้นคุณภาพสูงที่เหมาะกับวัสดุฝ้าเพดาน หลังจากสีรองพื้นแห้งแล้ว ให้ทาหลาย ๆ รอบเพื่อให้สีรองพื้นเรียบเนียนและสม่ำเสมอ เลือกทาสีที่เข้ากับโทนสีที่มีอยู่หรือพิจารณาทาสีใหม่ทั้งเพดานเพื่อให้ดูใหม่

การดีไซน์ภายในและความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านทั้งสองสไตล์

 

บ้านลอฟท์สไตล์

การตกแต่งที่ทันสมัยและเรียบง่าย บ้านสไตล์ลอฟท์มักมีการตกแต่งภายในแบบร่วมสมัยและเรียบง่าย โดยใช้ลายเส้นที่สะอาดตา เน้นพื้นที่ว่าง และใช้ color palette ที่เป็นกลาง สซึ่งไตล์การออกแบบนี้ช่วยให้ลักษณะทางสถาปัตยกรรม เช่น กำแพงอิฐเปลือยและเพดานสูง เป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ ทำให้เป็นสิ่งที่ดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดีเลยครับ

เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคอุตสาหกรรม เพื่อเติมเต็มสุนทรียะของอุตสาหกรรม บ้านสไตล์ลอฟท์มักผสมผสานเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่มีกลิ่นอายของยุคอุตสาหกรรม ของตกแต่งบ้านต่าง ๆ ที่ทำจากโลหะ ไม้ถม หรือคอนกรีตเป็นตัวเลือกยอดนิยม เฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมการออกแบบภายในให้ดูโดดเด่น ดูกลมกลืนกันมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับพื้นที่ใช้สอยอีกด้วย

การใช้ประโยชน์จากพื้นที่เปิดโล่ง แปลนบ้านสไตล์ลอฟท์แบบเปิดโล่งทำให้มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับกิจกรรมและการจัดสร้างสรรค์ต่าง ๆ เจ้าของบ้านมีความยืดหยุ่นในการกำหนดโซนต่าง ๆ ภายในพื้นที่เดียวกันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และโฮมออฟฟิศ การไม่มีผนังช่วยให้สามารถผสานรวมพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้านได้อย่างราบรื่นและส่งเสริมความรู้สึกเชื่อมโยง กลมกลืนมากยิ่งขึ้นด้วยครับ

 

บ้านบริคหรือบ้านอิฐ

ความคลาสสิกและไร้กาลเวลา: บ้านอิฐมักมีบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าดึงดูดใจเนื่องจากการออกแบบที่คลาสสิก การตกแต่งภายในสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์เหนือกาลเวลา โดยเน้นที่ความสะดวกสบายและความผาสุก ส่วนประกอบไม้ ผ้าเนื้อนุ่ม และโทนสีอบอุ่นมักพบเห็นได้ทั่วไปในบ้านอิฐ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น

บรรยากาศที่อบอุ่นและสบาย: พื้นผิวที่เป็นธรรมชาติและการผนังอิฐสีเอิร์ธโทนช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสบายภายในบ้าน ความสวยงามนี้ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยการผสมผสานเตาผิงหรือเตาฟืน ซึ่งเพิ่มองค์ประกอบที่เรียบง่ายและสะดวกสบายให้กับพื้นที่อยู่อาศัย

ผสมผสานวัสดุจากธรรมชาติ บ้านอิฐมักเน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติในการออกแบบตกแต่งภายใน ไม้ หิน และไฟเบอร์มักใช้เป็นวัสดุที่ใช้ปูพื้น ทำตู้เก็บของ และเฟอร์นิเจอร์ การผสมผสานขององค์ประกอบทางธรรมชาติทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่กลมกลืนและเป็นธรรมชาติเป็นอย่างมากครับ

ความยั่งยืน

บ้าน Loft

หน้าต่างและฉนวนกันความร้อน เพื่อลดการสูญเสียความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ดียิ่งขึ้น บ้านสไตล์ลอฟท์มักมีหน้าต่างพร้อมกระจกสองชั้นหรือสามชั้น นอกจากนี้ ฉนวนที่เหมาะสมยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันกระแสลมและรักษาอุณหภูมิภายในอาคารให้สบายตลอดทั้งปี

การใช้แสงธรรมชาติและการระบายอากาศจากธรรมชาติ หน้าต่างบานใหญ่ในบ้านสไตล์ลอฟท์เปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ ช่วยลดความจำเป็นในการใช้แสงจากหลอดไฟในระหว่างวันได้เยอะมาก ๆ และตำแหน่งหน้าต่างที่เหมาะสมยังช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ส่งเสริมการไหลเวียนของอากาศและลดการพึ่งพาระบบระบายความร้อนจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยครับ

วัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน บ้านสไตล์ลอฟท์มีข้อได้เปรียบในการผสมผสานวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน เช่น ไม้ที่นำกลับมาใช้ใหม่ โลหะรีไซเคิล และฉนวนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วัสดุเหล่านี้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในขณะที่เพิ่มลักษณะเฉพาะให้กับบ้านให้ดูโดดเด่นไปด้วยในเวลาเดียวกันครับ

 

บ้าน Brick

ประโยชน์ของมวลความร้อนของอิฐ อิฐมีคุณสมบัติในการกักเก็บความร้อนที่ดีเยี่ยม ซึ่งหมายความว่าสามารถดูดซับและเก็บความร้อนได้เป็นอย่างดี คุณลักษณะนี้ช่วยให้บ้านที่ทำจากอิฐควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารได้โดยการดูดซับความร้อนในระหว่างวันและปล่อยความร้อนอย่างช้า ๆ ในเวลากลางคืน ช่วยลดความจำเป็นในการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อทำความร้อนหรือความเย็นได้เป็นอย่างมากเลยครับ

เป็นฉนวนชั้นเยี่ยม แม้ว่าตัวอิฐจะเป็นฉนวนที่ดีอยู่แล้ว แต่การติดวัสดุฉนวนเพิ่มเติมสามารถรวมเข้ากับการก่อสร้างบ้านอิฐเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ดีขึ้นไปอีก สามารถติดตั้งฉนวนกันความร้อน เช่น แผงโฟมหรือฉนวนใยหินภายในโพรงผนังเพิ่มเติมได้ ทำให้ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวมให้ดียิ่งขึ้นครับ

การผลิตอิฐที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อิฐทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ดินเหนียวและหินดินดาน ทำให้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตอิฐได้ประหยัดพลังงานและมีความยั่งยืนมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยผู้ผลิตหลายรายใช้แนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยครับ

สรุป

โดยสรุปแล้ว ความแตกต่างระหว่างบ้านสไตล์ลอฟท์กับบ้านอิฐอยู่ที่การออกแบบสถาปัตยกรรม วัสดุก่อสร้าง การตกแต่งภายใน การประหยัดพลังงาน บ้านสไตล์ลอฟท์มีพื้นเปิดโล่ง เพดานสูง องค์ประกอบแบบอุตสาหกรรม และความสวยงามแบบสมัยใหม่ ในขณะที่บ้านอิฐผสมผสานการออกแบบแบบดั้งเดิมด้วยภายนอกอิฐ ความอบอุ่น และความคลาสสิก การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้สามารถช่วยเจ้าของบ้านสามารถตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลตามความชอบ ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณได้อย่างรอบคอบมากขึ้นครับ

ที่อยู่

111/47 ม. 3  ต. บางรักน้อย
อ. เมืองนนทบุรี จ. นนทบุรี 11000

โทร

088-864-0000 (คุณมุก)

063-431-3311 (คุณอัน)

อีเมล

sales@theeasyhouse.com